Last updated: 11 มี.ค. 2553 | 15850 จำนวนผู้เข้าชม |
เครนสนามขาสูง 2 ข้าง แบบคานเดี่ยว มีความเหมาะสมใช้ติดตั้งบนพื้นที่กลางแจ้ง และในร่มใต้หลังคาโรงงาน สำหรับโรงงานที่ไม่ได้เตรียมโครงสร้างเสาไว้เพื่อรับเครนเหนือศีรษะ ซึ่งมีความจำเป็นต้องติดตั้งเครนสนามขาสูง 2 ข้าง วางบนพื้นโรงงาน และลักษณะเช่นเดี่ยวกับเครนเหนือศีรษะแบบคานเดี่ยวที่มีความเหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้งานยกน้ำหนักไม่หนักมาก ควรมีความกว้างใช้งานตั้งแต่ 6 - 20 เมตร และควรมีน้ำหนักยกตั้งแต่ 0.1 - 12.5 ตัน เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะมีรอกไฟฟ้าสำหรับเครนแบบคานเดี่ยวที่ออกแบบผลิตเป็นมาตรฐานรุ่นต่าง ๆ ไว้แล้ว สำหรับใช้งานแขวนประกอบกับเครนชนิดนี้โดยมีความเหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งเครนสนามขาสูง 2 ข้าง ถือเป็นเครนไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมใช้กันไม่มากนักในการนำมาใช้ติดตั้งภายในตัวอาคารโรงงาน เพราะจะไม่สะดวกมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเครนเหนือศีรษะที่วิ่งอยู่บนรางวิ่งด้านบนหูช้างที่เชื่อมติดกับเสาโรงงาน เนื่องจากมีชุดขาเครนวิ่งที่วางอยู่บนพื้นที่ด้านล่างจะทำให้เสียพื้นที่ในการใช้งานทั้ง 2 ด้านของโรงงานตลอดความยาวของอาคารโรงงานไปทั้งหมดแต่ดังที่กล่าวไว้ด้านบนคือ เหมาะกับเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาสำหรับโรงงานที่ไม่ได้เตรียมโครงสร้างเสาที่แข็งแรงไว้รองรับน้ำหนักเครนเหนือศีรษะ และรางวิ่งเครนด้านบน หรือเหมาะกับงานที่ต้องการใช้ยกวัตถุหรือสินค้ากลางแจ้งที่ไม่ต้องการสร้างโครงสร้างโรงงาน แต่ผู้ติดตั้งเครนก็จะต้องเตรียมงานฐานรากและคานใต้กิดไว้อย่างแข็งแรก เพื่อรองรับรางวิ่งเครนเช่นกัน เพราะเครนสนามขาสูงมีน้ำหนักกดลงบนรางมาก และต้องวิ่งบนรางวิ่งที่มีระดับเท่ากัน และแนวตรงตลอดทาง ซึ่งถ้าฐานรากใต้รางวิ่งไม่แข็งแรงพอก็ทำให้รางเครนทรุดตัว และชุดโครงสร้างเครนอาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ สิ่งสำคัญเครนสนามขาสูง 2 ข้าง แบบคานเดี่ยวไม่ควรทำขนาดความกว้างของชุดคานเดครนเกิดกว่า 20 เมตร และน้ำหนักยกเกินกว่า 12.5 ตัน หรือใช้ความเร็ววิ่งตามแนวยาวเกินกว่า 25 เมตร/นาที เพราะเนื่องจากเป็นเครนแบบคานเดี่ยว และตัวเครนยกขาสูง 2 ข้าง ถ้าออกแบบเครนกว้างเกินไป โดยใช้ยกน้ำหนักที่มาก หรือเคลื่อนที่เร็วเกินไป เมื่อเกิดความฝืดของล้อกับพื้นผิวรางวิ่ง หรือระดับรางทั้ง 2 ด้านไม่เท่ากัน ทำให้ขาเครนทั้ง 2 ด้านออกตัวไม่เท่ากัน ถ้าออกแบบโครงสร้างเครนไม่แข็งแรงนัก จะเกิดปัญหากับชุดคานเครนดัดตัวบิดโค้งงอตัวได้ หรือทำให้โครงสร้างชุดเครนล้มลงเป็นอันตรายได้ |
11 มี.ค. 2553
11 มี.ค. 2553
11 มี.ค. 2553
11 มี.ค. 2553